สรุป
ส่วนค้นหาข้อมูล (Search) เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยมีกลไกในการทำงานที่เรียกว่า “Search Engine” ซึ่งจะทำหน้าที่จัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือมี Keyword ตรงกับที่ผู้ใช้ป้อนในเครื่องมือค้นหาข้อมูล แล้วแสดงผลลัพธ์เป็นรายการผลการค้นหาออกมาให้ผู้ใช้เลือกชม ซึ่งเครื่องมือค้นหาข้อมูลสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Internal Search Engine เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลภายในไซต์ และ External Search Engine เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลภายนอกไซต์
ส่วนค้นหาข้อมูล (Search) เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยมีกลไกในการทำงานที่เรียกว่า “Search Engine” ซึ่งจะทำหน้าที่จัดกลุ่มข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือมี Keyword ตรงกับที่ผู้ใช้ป้อนในเครื่องมือค้นหาข้อมูล แล้วแสดงผลลัพธ์เป็นรายการผลการค้นหาออกมาให้ผู้ใช้เลือกชม ซึ่งเครื่องมือค้นหาข้อมูลสามารถจำแนกออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ Internal Search Engine เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลภายในไซต์ และ External Search Engine เป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลภายนอกไซต์
ส่วนค้นหาข้อมูลที่ดี จะประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ คือ ช่องป้อนข้อมูล (Search Box) เป็นส่วนที่อนุญาตให้ผู้ใช้ป้อน Keyword ที่ต้องการค้นหา ปุ่มค้นหาข้อมูล (Button Labeled Search) ใช้ยืนยันการส่ง Keyword ให้โปรแกรมประมวลผล และยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยชี้ความแตกต่างระหว่างช่องป้อนข้อมูลแต่ละช่องด้วย และองค์ประกอบสุดท้าย คือ หน้าผลลัพธ์ที่ได้จากการค้นหา (Search Engine Results Pages : SERP) เป็นหน้าเว็บที่แสดงรายงานสรุปผลการค้นหาข้อมูลที่ตรงกับ Keyword ที่ผู้ใช้ต้องการ ตัวอย่างหลักการออกแบบส่วนค้นหาข้อมูลที่สำคัญ เช่น ควรกำหนดให้ช่องป้อนข้อมูลมีขนาดความกว้างตั้งแต่ 30 ตัวอักขระ และควรจัดวางเครื่องมือค้นหาข้อมูลให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันในทุกเว็บเพจ เป็นต้น
Search Engine Optimization (SEO) เป็นเทคนิคการจัดลำดับความสำคัญของข้อมูล เพื่อเพิ่มโอกาสให้ External Search Engine สามารถค้นหาเว็บไซต์ขององค์กรได้มากขึ้น โดยสามารถจำแนกเทคนิค SEO ออกเป็น 2 ประเภท คือ “Black-Hat” และ “White-Hat” เป็นการทำ SEO ในด้านลบ มี 2 วิธี คือ (1) การทำ “Clocking” (เรียกอีกอย่างว่า “Doorway”) เป็นการใช้โปรแกรมดักจับหมายเลข IP ของ Search Engine แล้วแสดงหน้าเว็บที่สร้างขึ้นเฉพาะให้กับ Search Engine โดยหน้าเว็บนั้นจะมีแต่ Keyword เท่านั้น และ(2) การทำ “Spam” เป็นเทคนิคการแทรกคำซ้ำๆ บนหน้าเว็บ ซึ่งอาจทำได้ 2 ลักษณะ คือ แทรกตามข้อมูลบนหน้าเว็บนั้น หรือแทรกใส่หน้าสคริปต์ (Script) ที่แท็ก Comment สำหรับเทคนิคการทำ SEO แบบที่สอง คือ “White-Hat” เป็ฯเทคนิคการทำ SEO ด้านบวก มี 2 วิธี คือ (1) “Linguistic SEO” เป็นการกำหนดรูปแบบภาษาที่ใช้เป็น Keyword โดยเลือกใช้คำที่มีผู้นิยมใช้จำนวนมาก และ (2) “Reputation SEO” เป็นการสร้างเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก โดยให้เว็บไซต์ต่างๆ สร้าง Outbound Link มายังเว็บไซต์ของบริษัท เป็นต้น