Search Engine Optimization

3. Search Engine Optimization
Search Engine Optimization (SEO) เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ Search Engine ค้นหาเว็บไซต์ของเราได้มากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไป Search Engine จะใช้เทคนิคการค้นหาข้อมูลภายในหน้าเว็บเพจที่มีข้อมูลหรือคำตรงกับ Keyword มากที่สุดก็จะถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาซึ่งลำดัลผลการค้นหาในหน้า SERP ของ Search Engine ทุกตำแหน่งล้วนมีผลต่อการรับชมข้อมูลของผู้ใช้ทั้งสิ้น เช่นผลการค้นหาในอับดับที่ 3 ของหน้าเว็บ ย่อมมีโอกาสที่ผู้ใช้จะคลิกชมข้อมูลน้อยกว่าผลการค้นหาในอันดับที่ 1 เป็นต้น
ดังนั้นองค์กรต่าง ๆ จึงพยายามที่จะหาวิธีให้ Search Engine จัดลำดับเว็บไซต์ของตนให้อยู่อันดับต้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีบริษัทจำนวนมากที่ให้บริการ SEO หรือการออกแบบเว็บให้สอดคล้องกับการทำงานของ Search Engine ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น รวมทั้งการรักษาอันดับผลการค้นหาเว็บไซต์ด้วย ซึ่งจะคิดค่าใช้จ่ายจากอัตราที่มีผู้ชมเว็บไซต์คลิกเข้าไปเยี่ยมชมในเว็บไซต์นั้น ๆ
หมายเหตุ ค่าใช้จ่านในการจ้างบริษัททำ SEO ให้กับเว็บไซต์นั้นค่อนข้างสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากต้องการจัดลำดับเว็บไซต์ให้อยู่ในลำดับ 1-10 ของ Search Engine ที่มีชื่อเสียง เช่น Google หรือ MSN ดังนั้นบริษัทจึงควรเปรียบเทียบผลประโยชน์หรือกำไรที่จะได้รับเมื่อทำ SEO กับค่าใช้จ่ายที่ต้งอเสียไปให้รอบคอบก่อน
เมื่อ Search Engine ใช้หลักการค้นหาข้อมูลจาก Keyword เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว จึงได้มีการพัฒนาเทคนิค SEO เพื่อเพิ่มจำนวน Keyword บนหน้าเว็บ โดยสามารถจำแนกเทคนิค SEO ออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1 เทคนิค “Black-Hat”
เทคนิค “Black-Hat” เป็นเทคนิคการทำ SEO ในด้านลบ ซึ่งในที่นี้จะขอกล่าวถึงเล็กน้อยเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจและหลีกเลี่ยงการออกแบบเว็บไซต์ในลักษณะนี้ ซึ่งอาจทำให้ Search Engine บางชนิด เช่น Google ตรวจจับและตัดเว็บไซต์ออกจากฐานข้อมูลของระบบทันที เทคนิค “Black-Hat” ที่นิยมใช้งานมีดังนี้
- การทำ “Cloaking”
หรือเรียกอีกอย่างว่า “Doorway Page” เป็นเทคนิคที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก โดย “Cloaking” เป็นโปรแกรมที่ถูกติดตั้งไว้ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ (Sever) จะทำหน้าที่ดักจับหมายเลข IP ของ Search Engine (กลุ่ม IP ของ Crawler, Robot และ Spider ซึ่งเป็นโปรแกรมในการค้นหาและสำรวจเว็บ) ออกจาก IP ของผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตทั่วไป โดยจะแสดงหน้าเว็บไซต์ที่ถูกซ่อนไว้ให้กับ IP ของ Search Engine ซึ่งหน้าเว็บที่ซ่อนไว้นี้เป็นหน้าเว็บที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูลสินต้าหรือบริการใด ๆของบริษัท (หรือเกี่ยวข้องแต่น้อยมาก) แต่จะมี Keyword หรือคำที่คาดว่าผู้ชมเว็บไซต์จะใช้ค้นหาโดยเฉพาะทั้งหน้าเว็บในปริมาณมาก ๆ เพื่อให้ Search Engine เห็นว่าเว็บไซต์นี้มีคำที่ตรงกับ Keyword มากก็จะจัดอยู่ในลำดับต้นของหน้าเว็บ
รูป แสดงตัวอย่างการทำ Spam คำว่า “BMW” บนหน้าเว็บ www.bmw.com ทั้งสิ้น 15 คำ
-การทำ “Spam”
เป็นเทคนิคการใช้คำหรือ Keyword ในส่วนเนื้อหาหรือข้อมูลบนเว็บซ้ำ ๆ กันจำนวนมาก ซึ่งลักษณะการทำ Spam สามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
การทำ Spam บนหน้าเว็บ เป็นการทำ Spam ที่ผู้ชมสามารถมองเห็นได้ชัดเจน กล่าวคือ เป็นการใช้คำปะปนกับข้อมูลในลักษณะกล่าวซ้ำ ๆ หรือใช้แทนในตำแหน่งที่เป็นหัวข้อ จนบางครั้งผู้ชมอาจรู้สึกได้ว่าเป็นคำที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเลย หรือใช้การพิมพ์ข้อความบนหน้าเว็บแต่ใช้การเปลี่ยนสีข้อความให้เป็นสีเดียวกับพื้นหลัง จึงทำให้ผู้ชมมองไม่เห็นแต่หากผู้ชมนำเมาส์ไปคลิกคลุมก็จะปรากฏคำ Spam เหล่านั้น
การทำ Spam ในหน้าสคริปต์ (Script) เป็นการสร้าง Spam ในหน้าสคริปต์ ซึ่งเป็นแท็ก HTML โดยนิยมกำหนด Spam ในแท็ก Comment<!—comment--> หรือระหว่างแท็ก Mete ที่แอททริบิวต์ Content
เทคนิค “White-Hat” 
เทคนิค “White-Hat”  เป็นเทคนิคการทำ SEO ในด้านบวก  ซึ่งคสรนำไปใช้ในการออกแบบส่วนค้นหาข้อมูลภายในไซต์  โดยเทคนิค “White-Hat”  ที่นิยมใช้งานมีดังนี้
- Linguistic SEO
เป็นเทคนิคการกำหนดรูปแบบภาษา  หรือคำศัพท์ที่ใช้เพื่อการค้นหาข้อมูล  โดยใช้การศึกษาคำหรือ Keyword ที่มีผู้นิยมใช้งานมากที่สุด  แล้วนำมาใช้ในเว็บไซต์ของเรา  ซึ่งวิธีการค้นหาคำศัพท์สามารถกระทำได้ 2 ลักษณะ  คือ
ศึกษา Keyword ตามคำแนะนำของ External Search Engine  ใน External Search Engine จะมีคำแนะนำการค้นหาให้กับผู้ใช้ตามเรื่องที่ต้องการค้นหา  ยกตัวอย่างเช่น  ใน Google จะมีหน้าเว็บเพจที่อนุญาตให้นักพัฒนาเว็บสามารถตรวจสอบว่า Keyword ที่มีผู้นิยมใช้ค้นหาข้อมูลในเรื่องดังกล่าวมีจำนวนเท่าใด  และในเว็บไซต์ของเรามีจำนวน Keyword นั้นมากเท่าใด (ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://adwords.google.com) หรือในเว็บไซต์ที่ให้บริการ SEO โดยตรง  เช่น SEO-Watch   จะให้ผู้ใช้ป้อนตัวอย่าง Keyword บนหน้าเว็บของตน  จากนั้นโปรแกรมก็จะทำการสำรวจและแสดงตัวอย่างรูปแบบการใช้ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับคำนี้ในลักษณะต่างๆ และ Keyword ใดที่มีผู้นิยมใช้งานมากที่สุด  ดังรูปที่ 4.33
รูป  แสดงตัวอย่างหน้าเว็บ www.seo-watch.com  ให้ผู้ใช้ป้อน Keyword ที่ต้องการค้นหาข้อมูล
หมายเหตุ  วิธีค้นหาคำศัพท์ลักษณะนี้จะทำให้ทราบความเปลี่ยนแปลงของคำศัพท์ที่ผู้ใช้ค้นหาอยู่เสมอด้วย  โดยโปรแกรมจะระบุระยะเวลาที่คำศัพท์หรือ Keyword เป็นที่นิยมใช้ในแต่ละเดือน
ศึกษา Keyword จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ใช้  วิธีนี้จะใช้กับการค้นหาข้อมูลภายในไซต์โดยทำการสร้างบล็อกแสดงความคิดเห็นต่อเครื่องมือค้นหาข้อมูล  หรือให้ผู้ใช้ติชมปัญหาที่เกิดในการใช้งาน  แล้วนำมาแก้ไข  นอกจากนี้ยังรวมถึงการสังเกตพฤติกรรมการสอบถามปัญหาระหว่างผู้ใช้กับเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการตอบปัญหาการใช้งานด้วย  จากนั้นจึงจับรูปแบบคำหรือ Keyword ที่ผู้ใช้มักสอบถามกันเป็นจำนวนมากมาใช้เป็น Keyword ค้นหาข้อมูลภายในไซต์ได้
Reputation SEO
เป็นเทคนิคการสร้างเว็บไซต์ให้เป็นที่รู้จัก  โดยให้เว็บไซต์อื่นทำหน้าที่เป็น “Outbound Link” มายังเว็บไซต์ของบริษัท  ซึ่งโดยมากเว็บไซต์จะไม่นิยมสร้างลิงค์เชื่อมโยงไปยังภายนอกไซต์  ดังนั้นหากต้องการเลือกใช้วิธีนี้  นักพัฒนาเว็บจะต้องออกแบบเว็บให้ข้อมูลมีคุณภาพ  มีเนื้อหาที่หลากหลาย  และเกี่ยวข้องหรือครอบคลุมกับข้อมูลที่เว็บไซต์อื่นๆ ต้องการอ้างอิงถึงให้มากที่สุด  นอกจากนี้จะต้องคอยอัพเดทอายุการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทตนเองอยู่เสมอ  เพื่อให้เว็บไซต์อื่นสร้างลิงค์มายังเว็บไซต์ของบริษัทตรวจพบและยังเรียกใช้งานเว็บไซต์เราต่อไป